ศิลปะแนว Surrealism

Surrealism ศิลปะที่อยู่เหนือความเป็นจริง

ศิลปะแนว Surrealism มีความคิดว่าจิตใต้สำนึกนั้นคือหนทางของงานศิลปะ ถือว่าเป็นขบวนการทางศิลปะอย่างหนึ่ง จิตใต้สำนึกที่ถูกเก็บอยู่ภายในนั้นสามารถนำมาทำเป็นงานศิลปะได้  พวกเขาปฏิเสธความเป็นเหตุเป็นผลและกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้ความสำคัญกับจินตนาการและความฝัน สนใจสิ่งที่เป็นปมในใจที่ถูกปิดกั้น เช่น เรื่องของความรุนแรง เพศ แรงปรารถนา ตัวอย่างเช่น ผลงาน Sleeping Venus ของ Paul Delvaux ในปี 1944  ที่เป็นภาพสตรีเปลือยกายท่ามกลางทิวทัศน์และสถาปัตยกรรมที่แปลกตา เป็นภาพกึ่งฝันกึ่งจริง ให้ความงามควบคู่ไปกับความน่ากลัว สตรีในภาพเป็นสัญลักษณ์แห่งกามารมณ์ ซึ่งการวาดภาพสตรีเปลือยกายนั้นสื่อถึงแรงปรารถนาของศิลปิน รวมถึงภาพนี้มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงของสงครามด้วย

          Surrealism คือกระบวนการความเคลื่อนไหวทางศิลปะในคริสต์ศตวรรษที่ 1924 จนถึงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2  จุดกำเนิดของ Surrealism อยู่ในประเทศฝรั่งเศส โดยเป็นผลมาจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ผู้คนในยุโรปอพยพจากชนบทเข้าสู่เมือง นำไปสู่ปัญหาความยากจน ปัญหาสังคม การเมืองและเศรษฐกิจปะทุ ทำให้ชนชั้นกลางระดับนายทุนฝ่ายขวาที่เป็นปฏิปักษ์กับฝ่ายซ้าย สังคมนิยมหันไปสนับสนุนฟาสซิสต์ที่เป็นพวกเผด็จการชาตินิยม  ซึ่งทำให้ Andre Breton ได้พบกับ Tristan Tzara ผู้ก่อตั้ง DADA ที่ได้ย้ายจากซูริคมาปารีส โดย Breton พบว่าตัวเขากับ DADA มีอะไรที่ตรงกันจึงสมัครเข้ากลุ่ม DADA  เป็นเวลาสองปีที่เขาได้ทำกิจกรรมกับ DADA ต่อมา Breton ได้ขัดแย้งกับ Tzara เขาจึงลาออกจาก DADA และได้ออกแถลงการณ์ฉบับแรกของ Surrealism (manifesto of Surrealism) ในปี ค.ศ.1924 โดยเนื้อหามีลักษณะที่มุ่งทำลายระเบียบกฎเกณฑ์ของโลกภายนอกที่เป็นอยู่ ซึ่งทำให้มนุษย์อยู่ในสภาพน่าสมเพช ไร้พลังและไร้เสรีภาพ ขณะเดียวกันพวกเขาต้องการสร้างโลก และความเป็นจริงใหม่ เพื่อให้มนุษย์ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า มีเสรีภาพสมบูรณ์  ศิลปินควรหาทางเข้าไปในความฝันของตนและสร้างเป็นงานศิลปะ แนวคิดสำคัญของกลุ่มคือ การปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์และแรงปรารถนาของจิตไร้สำนึก โดยนำแนวคิดพื้นฐานมาจากทฤษฏีจิตวิเคราะห์ของ Sigmund Freud โดยทฤษฎีใหม่ดังกล่าวนั้นได้รับการต่อต้านเป็นอย่างมากจากคนฝรั่งเศส แต่พวก Surrealism กลับยกย่องและชื่นชม

          แนวทางหลักของทัศนศิลป์ในลัทธิ Surrealism มี 2 แนวทางคือ แนวคิดแรก ศิลปินกลุ่มนี้สนใจการสร้างงานโดยวิธี Automatism เป็นการระงับจิตสำนึก และปลดปล่อยจิตสำนึกในระดับต่างกัน รูปแบบของงานที่ออกมามักมีลักษณะเป็นงานนามธรรม ซึ่งยังคงมีร่องรอยของที่มาต่างๆ และอีกแนวคิดหนึ่งคือ สร้างขึ้นโดยอาศัยกรรมวิธีการวาดภาพแบบชัดเจนแน่นอนตามหลัก ออกมาเป็นจินตภาพแปลกประหลาดที่สามารถระบุลักษณะกายภาพของรูปทรงได้ 

ศิลปะ

Arte Povera ศิลปะที่สร้างขึ้นจากสิ่งไร้ค่า

ศิลปะที่หลายคนนึกถึงย่อมต้องเป็นสิ่งที่แสดงถึงความสวยงามอันสรรสร้างขึ้นจากสิ่งที่งดงาม แต่รู้หรือไม่ว่ามีศิลปะหนึ่งที่สร้างขึ้นจากสิ่งที่ไร้ค่าที่หลายคนมองข้ามว่าไม่น่าและไม่ควรที่จะนำมาสร้างเป็นงานศิลปะเลย ยกตัวอย่างเช่น ดิน ก้อนหิน ถ่านหิน ไปจนถึงสิ่งปฏิกูลอย่างอุจจาระ โดยศิลปะนี้ถูกเรียกว่า ‘อาร์เต้ โพเวร่า’ (Arte Povera)

          อาร์เต้ โพเวร่า หรือ Poor art และอีกชื่อหนึ่งคือ Impoverished art แปลอย่างตรงตัวก็คือ ‘ศิลปะอนาถา’ เป็นกระแสเคลื่อนไหวทางศิลปะแบบหัวก้าวหน้า (avant-garde) ที่โดดเด่นและทรงอิทธิพลที่สุดในยุโรป โดยศิลปะ อาร์เต้ โพเวร่า เริ่มขึ้นในช่วงกลางทศวรรษ 1960s ถึงกลางทศวรรษ 1970s ในประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความไม่สงบทางการเมือง ทำให้เหล่าศิลปินรุ่นใหม่หัวก้าวหน้าของอิตาลีที่มีแนวคิดทางการเมืองแบบสุดขั้วรวมตัวกันทำงานศิลปะจากวัสดุที่ไร้คุณค่าไร้ราคาที่มีอยู่เกลื่อนกลาดอยู่ทุกหนทุกแห่ง รวมถึงของเก่า ของเหลือใช้ที่ชำรุดทรุดโทรม มาสร้างเป็นงานศิลปะ ซึ่งวัสดุที่ใช้เน้นความธรรมดาที่สามารถพบเห็นได้โดยทั่วไปในชีวิตประจำวันไปจนถึงการใช้ของที่เรียกได้ว่าน่าอดสู เช่น ผ้าขี้ริ้ว กระดาษหนังสือพิมพ์ และวัสดุในยุคก่อนยุคอุตสาหกรรมอย่าง ดิน ก้อนหิน ถ่านหิน ไปจนถึงสิ่งปฏิกูลอย่างอุจจาระ โดยล้วนแต่เป็นของที่ตรงกันข้ามอย่างยิ่งกับวัสดุตามจารีตที่ศิลปินสมัยนั้นจะใช้วัสดุที่มีความประณีต อย่างผ้าใบ หินอ่อน และสำริด  ทั้งนี้พวกเขายังใช้วัสดุที่ไม่แข็งแรงคงทนและเสื่อมสลายง่ายดายตามกาลเวลาด้วย เนื่องจากต้องการแสดงออกถึงการต่อต้านคุณค่าความงามตามธรรมเนียม และคุณค่าทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นโดยสถาบันของรัฐ รวมถึงความก้าวหน้าของระบบอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทั้งยังต่อต้านศิลปะสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศิลปะนามธรรมของยุโรปในช่วงทศวรรษ 1950s และปฏิเสธค่านิยมของศิลปะมินิมอลลิสม์ เนื่องจากศิลปะมินิมอลลิสม์ ถือเป็นศิลปะที่รับการพัฒนาทางเทคโนโลยีและระบบอุตสาหกรรม แม้พวกเขาจะนิยมทำงานประติมากรรมโดยใช้วัสดุอันเรียบง่ายในการทำงานศิลปะก็ตาม

          ตัวอย่างผลงานของศิลปะแนวอาร์เต้ โพเวร่าที่โด่งดังนั่นก็คือ Venus of the Rags (1967, 1974) ของ Michelangelo Pistoletto ที่จัดวางประติมากรรมสลักหินอ่อนเทพีวีนัสยืนหันหลังให้ผู้ชมและมองไปยังกองผ้าขี้ริ้วและเสื้อผ้าเหลือใช้ที่กองพะเนินโดยเป็นการแสดงความขัดแย้งระหว่างวัตถุสองประเภทที่ถูกจับมาวางด้วยกัน ซึ่งทำให้กระตุ้นผู้ชมให้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการจับคู่ของสิ่งที่ขัดแย้งกัน ผลงานชิ้นนี้เป็นตัวอย่างที่สื่อถึงการเชื่อมโยงศิลปะเข้ากับวิถีชีวิต และวิจารณ์สถาบันทางวัฒนธรรมของรัฐ ทั้งยังพยายามทำลายความเป็นธุรกิจของศิลปะอีกด้วย

งานศิลปะ

4 สถาบันสอนศิลปะสำหรับเด็ก

งานศิลปะถือเป็นศาสตร์อีกศาสตร์หนึ่งที่ได้รับการวิจัยจากหลากหลายที่ว่าเป็นศาสตร์ที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านความคิดสร้างสรรค์ และ ทางด้านอารมณ์ให้กับเด็กได้เป็นอย่างดี ทำให้พ่อแม่หลาย ๆ คนเลือกที่จะให้ลูก ๆ ของตัวเองเรียนศิลปะในเวลาว่าง เพราะนอกจากจะเป็นการสร้างทักษะด้านศิลปะให้กับเด็ก ๆ แล้ว ยังช่วยในด้านพัฒนาการของเด็ก ๆ เป็นของแถม วันนี้เราจึงรวบรวม 4 สถานที่ที่สอนศิลปะสำหรับเด็ก ๆ ในกรุงเทพ และ ปริมณฑลมาฝากกัน จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

  1. Kid Art School

ที่แรก เป็นโรงเรียนสอนศิลปะเด็กย่านปากเกร็ด นนทบุรี Kid Art School เป็นศูนย์สอนศิลปะเพื่อคุณหนูๆ ที่มีหลักสูตรศิลปะที่มากมายกว่า 300 หลักสูตรให้เด็ก ๆ  ได้มาเลือกเรียนกันไม่ว่าจะเป็น การระบายสีต่าง ๆ ทั้งสีน้ำ สีไม้ สีเทียน และ อื่น ๆ อีกเพียบ  การปั้น  การประดิษฐ์ เทคนิคสีน้ำ หากพ่อแม่คนไหนสนใจ และ อยู่แถวนนทบุรี สามารถติดต่อได้ที่ เบอร์โทร 02-582-2001หรือhttps://www.facebook.com/kidartschool/ โดย Kid Art School เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 – 18.00 น.

  • Art House

ที่ต่อมาคือ Art House(อาร์ตเฮ้าส์) เป็นสถาบันสอนศิลปะและการออกแบบที่อยู่ใจกลางเมือง อย่างเขตพญาไทย โดยเปิดทำการสอนแล้วมากกว่า 20 ปี มีหลักสูตรมากมาย พร้อมการันตีคุณภาพจากประสบการณ์สนที่ยาวนาน เข้าใจเด็ก ๆ แน่นนอค่ะ หากสนใจสามารถโทนติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทร 02-251-1000 หรือ https://web.facebook.com/arthouse.artschool/  โดย Art House เปิดทำการทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 10.00 – 20.00 น. และ วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09.00 – 19.00 น.

  • Create for kids

Create for kids เป็นสถาบันสอนศิลปะสำหรับเด็กที่มีรูปแบบการสอนที่เน้นไปเรื่องจิตสำนึกต่อสังคม การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และ การลงมือปฏิบัติจจริงเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้กับความสำเร็จ และ ความผิดพลาดของตัวเอง โดยหลักสูตรของที่นี่ก็มีมากมายทั้งศิลปะเด็ก การวาดแบบสร้างสรรค์ ศิลปะเด็ก การประดิษฐ์ของเหลือใช้ ศิลปะเด็กการปั้น แบบลอยตัว Create for Kid ตั้งอยู่บริเวณเขตลาดพร้าว เปิดทุกวันพุธ -อาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น. หากผู้ปกครองคนไหนสนใจสามารถโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 081-867-5833 หรือ  https://www.facebook.com/createforkids/

  • วาดสตูดิโอ

ที่สุดท้าย วาดสตูดิโอ เป็นสตูดิโอสอนศิลปะที่ตั้งอยู่ชั้น 4 อาคารเอเชีย ถ.พญาไท แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เป็นสตูดิโอที่เกิดจากการรวมตัวของผู้ชื่นชอบ และ รักในงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นศิลปิน สถาปนิก นักมัณฑนากร และ อื่น ๆ ซึ่งรับประกันได้เลยว่าน้อง ๆ ที่มาเรียนศิลปะที่นี่จะได้ความรู้แบบจัดเต็มพร้อมกับความเพลิดเพลิน โดยหลักสูตรก็มีให้เลือกตั้งแต่เด็กเล็ก จนเด็กโตเลยค่ะ โดยวาดสตูดิโอจะเปิดทุกวันศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 17.00 น. สามารถโทรสอยถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทร 080-496-4966 หรือ https://www.facebook.com/wardstudio

          เป็นอย่างไรบ้างคะกับ 4 โรงเรียนสอนศิลปะสำหรับเด็ก ๆ พ่อแม่คนไหนที่กำลังมองหาสถานที่สอนศิลปะให้กับเด็ก ๆ อยู่ก็สามารถติดต่อไปได้ตามช่องทางด้านบนเลยนะคะ รับประกันคุณภาพคับแก้วทุกที่เลยค่ะ